บอลไทย เอาชนะ ตรินิแดด 2-1 ได้ที่ 3 ปลอบใจ

การแข่งขันฟุตบอลทัวร์เมนต์ประจำชาติ

บอลไทย เอาชนะ ตรินิแดด 2-1 ได้ที่ 3 ปลอบใจ

บอลไทย สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนอาจมีการเซ็งเล็กน้อย โดยเฉพาะคนที่เป็นสายกีฬาที่ติดตามฟุตบอล เพราะเป็นอาทิตย์ที่เรียกว่า ฟีฟ่าเดย์ หรือ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลทีมชาตินั่นเอง แต่ยังคงมีความหลากหลายมมากขึ้นในเรื่องของการแข่งขันทั่วทุกมุมโลก แม้รายการส่วนใหญ่จะเป็นในรปแบบกระชับมิตร แต่ก็มีหลายรายการที่น่าติดตามดูไม่น้อย

เริ่มตั้งแต่ ฟุตบอลรายการ เนชั่นส์ลีก ของยุโรป โดยจะแบ่งสายตาม ranking ของทีม และถ้าทีมไหนในกลุ่มฟอร์มไม่ดี หรือ ชนะน้อย เก็บแต้มไม่ค่อยได้ หลังจากที่โคจรมาพบกันทุกคู่ในกลุ่ม หากมีแต้มน้อยที่สุดก็จะตกชั้นไปอยู่อีกลุ่ม เช่น ตกจากกลุ่ม A ปยัง กลุ่ม B ส่วนหากทีมไหนในกลุ่ม B ฟอร์มดีก็จะได้ย้ายขึ้นมาอยู่ A แทน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ดีที่สุด ซึ่งรูปแบบของรายการนี้ก็จะเป็นประมาณนี้

ส่วนอีกหนึ่งทัวร์นามเมนต์ที่หลายคนจับตา และให้ความสำคัญเป็นอย่างดีสำหรับคนไทยนั่นก็คือ รายการ พระราชทานคิงส์ คัพ หรือ บางคนเรียว่า ฟุตบอลสี่เส้า โดยจะมีการเชิญ หรือ จับฉลาก 3 ชาติ มาร่วมการแข่งขัน ซึ่งประเทศไทยนั้นคือ เจ้าภาพ ซึ่งปีนี้เราก็ได้ 3 ชาติ ประกอบไปด้วย มาเลเซีย, ทาจิกิสถาน ตรินิแดด และโตเบโก้ และทีมชาติไทย เจ้าภาพ

ผลประกฎว่า ทีมไทยเรานั้น ได้ที่ 3 เป็นที่ปลอบใจ หลังจากนัดแรกไล่ตามตีเสมอทีมมาเลเซีย 1-1 ก่อนที่จะดวลเป้าแพ้ในที่สุด ทำให้ต้องเข้ามาชิงที่ 3 กับ ตรินิแดด และโตเบโก้ที่พ่ายต่อทาจิกิสถาน 1-2 ในนัดแรก แต่สุดท้าย บอลไทย ทำได้ เอาชนะ ตรินิแดด 2-1 ได้อันดับ 3 ไปครอง

อันดับ 3 กับ กระแสที่เลวร้าย

หากพูดถึงกีฬาในบ้านเรา ในชั่วโมงนี้ที่ค่อนข้างจะโดนผู้คนเยาะเย้ยมากที่สุด ต้องยกให้กับฟุตบอลทีมชาติไทยเลยครับที่นัดแรกก็พ่ายต่อมาเลเซียในการยิงจุดโทษ จึงตกรอบแรก ซึ่งที่จริงแล้ว การพ่ายจุดโทษไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะการยิงจุกโทษนั้นโอกาสทั้งสองฝั่งเท่านั้น แต่กระแสที่ตีกลับมาจากเสียงของแฟนบอลนั้นนั่นก็คือ ในเวลาทำอะไรกันอยู่ ทำไมถึงทำได้แค่นี้ แถมยังต้องมาตามไล่ตีเสมออีกต่างหาก

หลังจากที่ตกรอบแรก กระแสฟุตบอลไทยด้านลบมาเยอะมาก และมีแนวโน้มสูงมากขึ้นที่คนจะแอนตี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่ชุด หรือ เปลี่ยนมากี่โค้ชก็ยังเหมือนเดิม ดูเหมือนความพัฒนาจะหยุดอยู่กับที่ และไร้พาสชั่น แถมนายกสมาคมก็ดูเหมือนไม่ค่อยจะรู้เรื่องพวกนี้มากเท่าไหร และสุดท้ายที่ดูเหมือนจะเลวร้ายมากที่สุดเลยก็คือ การคืนตั๋วนัดชิงที่ 3 ที่หลายคนตัดสินใจไม่เข้าดูมากขึ้น ซึ่งหากยังไม่มีการปรับ หรือ พัฒนาวงการฟุตบอล ทั้งที่รู้ว่าต้องเริ่มจาตรงไหน เชื่อว่าอีกไม่นาน บอลไทย จะมีคนติดตามน้อยกว่าเดิม และที่สำคัญ จะกลายเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม และไม่น่าตื่นเต้น

สนับสนุนบทความดี ๆ โดย : https://www.855gclub.com