สิงห์บลูขยับขึ้นที่ 2 ของกลุ่ม E

รายการยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมาลงทำการแข่งขันกันอยู่หลายคู่ด้วยกัน ซึ่งก็มีอยู่หลายทีมที่น่าจับตามอง แต่ถ้าเป็นบิ๊กแมตช์แล้วนั้น ต้องยกให้กับคู่ของ เชลซี ที่เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ ปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน ซึ่งก่อนเกมสถานการณ์ของทั้งสองทีมนั้นต่างกัน เพราะเจ้าบ้านมีเพียง 1 แต้ม จากการแข่งขัน 2 นัด ได้แต้มจากการเปิดบ้านเสมอซัลซ์บวร์ก 1-1

ส่วนทีมเยือนมี 4 แต้มเต็ม ได้แต้มจากการบุกไปเสมอ ซัลซ์บวร์ก 1-1 และเปิดบ้านเอาชนะดินาโม ซาเกร็บ ยอดทีมจากโครเอเชีย 3-1 ทำให้สถานการณ์ของทั้งสองทีมนั้นฝ่ายกดดันตกไปอยู่ที่เจ้าบ้านที่หากหวังที่จะเข้ารอบต่อไปอย่างน้อยต้องชนะนัดนี้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ส่วนทางฝั่งมิลาน ถ้าพวกเขาบุกมาเอาชนะได้ถึงที่ โอกาสที่จะลอยลำเข้ารอบต่อไปสูงมากทีเดียว เพราะอีกสองนัดที่เหลือไม่ใช่งานที่ยากเย็น

แต่สุดท้ายเป็นทีมสิงห์บลู เชลซีที่ต้องสู้หลังพิงฝาเปิดเป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ขาดลอย 3-0 ได้ประตูจาก เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ในนาทีที่ 24, ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง นาทีที่ 56 และ รีซ เจมส์ นาทีที่ 61 ทำให้พวกเขาเก็บเพิ่ม 3 แต้ม ขึ้นรองจ่าฝูงของกลุ่ม มีแต้มเท่ากับทีมเยือน แต่ผลต่างเจ้าบ้านนั้นทำได้ดีกว่า ส่วนจ่างฝูงของกลุ่ม คือ เร้ดบลูส์ ซัลซ์บวร์ก ที่เปิดบ้านเอาชนะดินาโม ซาเกร็บ 1-0 มี 5 แต้ม ได้ลุ้นเข้ารอบต่อไป

ทิศทางของทีมสิงห์บูลหลังจากเปลี่ยนโค้ช

หลังจากที่ยอดทีมจากลอนดอนได้ปลดโทมัธ ทูเคิ่ลไป และได้ตั้งแกรม พ็อตเตอร์ ขึ้นมาแทน ถือว่าทำผลงานได้ดี แม้การประเดิมในนัดแรกจะทำได้เสมอซัลซ์บวร์ก 1-1 ในนัดประเดิมสนามที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ก็ตาม แต่สองนัดถัดมาก็เก็บชัยชนะได้ตามที่สโมสร และแฟนบอลได้คาดหวังเอาไว้ หลังจากผ่านมาสองนัด ทิศทางของทีมดังจากลอนดอนยังคงอยู่ในกลุ่มหัวตาราง

และมองว่าลูกทีมเริ่มที่จะปรับตัวเข้าใจแผนของแกรม พ็อตเตอร์มากขึ้น และหากนักเตะเริ่มที่จะจูนกันติดในนัดต่อ ๆ ไป เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งทีมที่ท้าชิงแชมป์ในรายการต่าง ๆ แม้พรีเมียร์ลีกมีโอกาสที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะป้องกันแชมป์ได้ก็ตาม แต่อย่าลืมว่าฟุตบอลมีรายการอื่น ๆ ให้ลงทำการแข่งขันหลายรายการในฤดูกาลเดียว ฉะนั้นรายการอื่น ๆ ก็ยังมีโอกาส แม้แต่ในแขมเปี้ยนส์ลีก

เพราะรายการนี้อย่างที่แฟนบอลรู้ดีว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเก่งกาจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ซึ่งอาจจะหมายถึงดวง เพราะทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตั้ ที่เป็นยอดทีมในตอนนี้ และยืนนหนึ่งของการเต็งแชมป์ทุกายการ ยังไม่สามารรถที่จะคว้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สักสมัย ซึ่งดีที่สุดของพวกเขาได้แค่รองแชมป์ เพระแชมป์ตกไปอยู่ที่ เชลซี โอกาสจึงมีความเปิดกว้างอย่างมากสำหรับหลาย ๆ ทีมที่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบลึก

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก : https://www.855gclub.com