ศึกแชมป์ชนแชมป์

เรอัลมาดริด ยังคงโชว์ความเป็นทีมสร้างมาเพื่อแชมป์ได้อีกครั้ง เมื่อพวกเขาเอาชนะทีม “อินทรีย์แดง” ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ยอดทีมจากเยอรมัน ได้ 2 ประตูต่อ 0 คว้าแชมป์ซูเปอร์คัพ สมัยที่ 5 ไปได้ครอบครอง ซึ่งรายการนี้จะเป็นการนำเอาแชมป์ทั้งสองรายการมาพบกันที่สนามกลางตามที่ฟีฟ่าเป็นผู้จัด โดยจะเอาแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เป็นทีมราชันชุดขาวที่เอาชนะลิเวอร์พูล 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ จากนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์

ทำให้พวกเขาได้เข้าไปแข่งรายนี้ทันที และเข้าไปพบกับ แฟร้งเฟิร์ต จากเยอรมันที่ผงาดคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก สมัยแรก แม้ในนัดชิงจะเป็นฝ่ายโดนกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ยอดทีมจากสก๊อตแลนด์ยิงออกนำไปก่อนจาก โจเซฟ อริโบ แต่ด้วยความที่เป็นทีมที่สร้างโอกาสในการยิงได้เยอะมากกว่า ทำให้มาได้ประตูตามตีเสมอหลังผ่านไปเพียง 10 นาทีกว่า ๆ จากราฟาเอล บอร์เร่ กองหน้าชื่อดังชาวโคลอมเบีย

จากนั้นทั้งสองทีมก็พยายามที่จะห้ำหั่นกันทั้งคู่ แต่ทำอะไรกันไม่ได้ จนต้องตัดสินที่ฎีกา และยอดทีมจากเยอรมันนิ่งกว่า ยิ่งเป้าไม่พลาดเลยสักคน แต่ทางฝั่งเรนเจอร์ส ยิงพลาดเพียงคนเดียว ทำให้พลาดคว้าแชมป์สมัยแรก ก่อนที่จะส่งไปให้แฟร้งค์เฟิร์ตคว้าถ้วยรองของยูฟ่าไปครองได้สำเร็จ และเป็นการได้แชมป์รายการนี้ครั้งแรกของประวัติสโมสร

ทำให้ทั้งสองทีมจากสองรายการที่เป็นแชมป์ต้องมาดวลกันเพื่อคว้าถ้วยรายการที่เป็นตัวช่วยชี้วัดของความเจ๋งได้ไม่น้อย ว่าระหว่างแชมป์รายการใหญ่ที่สุด กับ แชมป์รายการรอง ใครจะเป็นฝ่ายประกาศศักดาแห่งยุโรป และทีมที่เป็นต่ออย่าง “ราชันชุดขาว” เรอัลมาดริด ก็ทำได้ตามเป้าหมาย ทำให้ตั้งแต่คาร์โล อันเชล็อตติ ลาออกจากการเป็นกุนซือเอฟเวอร์ตัน จนมาคุมยอดทีมจากสเปน กลับมาครั้งนี้ อันเชล็อตติ พาทีมชูถ้วยไปแล้วถึง 3 รายการด้วยกัน แบ่งเป็น แชมป์ลีกลาลีกา, แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา

ราชันยังคงเป็นราชัน

หลังจากที่ยอดทีมจากเมืองมาดริดคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ ได้เป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน ทำให้พวกเขาได้สร้างสถิติใหม่ที่ยอดเยี่ยมนั่นก็คือ เข้าชิงทั้งหมด 19 ครั้ง พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 17 ครั้ง เท่ากับว่า พวกเขาพลาดท่าเพียงแค่สองหนเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้เท่ากับว่า ทีมอย่างมาดริดถูกโฉลกกับการเข้าชิงเป็นอย่างยิ่ง และอาจจะเป็นทีมที่ถูกโฉลกสำหรับนัดชิงมากที่สุดเลยก็ว่าได้

ทำให้สมฉายาตามขนามนามว่า ราชันชุดขาว อย่างแท้จริง เป็นทีมที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแชมป์เปี้ยนส์ โดยเฉพาะการเป็นเจ้ายุโรปของพวกเขาที่คว้าไปถึง 13 แชมป์มากที่สุดใรบรรดาสโมสรอื่น ๆ และยังนำทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า ยอดทีมจากาตาลัน ถึง 8 สมัย (บาร์ซ่า แชมป์ยูฟ่า 5 สมัย) และทิ้งห่างคู่ปรับร่วมเมืองอย่างทีม “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด ถึง 13 สมัย ซึ่งแอตมาดริดไม่เคยได้สัมผัสรายการใหญ่เลยแม้แต่ครั้งเดียว และยังเป็นการพ่ายให้กับราชันชุดขาวด้วยในปี 2014

อาทิตย์ที่กำลังจะถึงนี้ในสุดสัปดาห์ถึงคิวที่กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี และลาลีกา สเปน จะเปิดลีกเสียที ทีมราชันชุดขาว ยังคงพร้อมด้วยผู้เล่นชุดเดิม ถึงแม้ว่าในทีมส่วนมากจะมีนักเตะที่มีอายุค่อนข้างเยอะในวงการฟุตบอล ไล่ตั้งแต่ ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส และ “ติง คาริม” เบนเซม่า เป็นต้น แต่ก็มีตัวที่พร้อมจะดันขึ้นมาเสมอ ๆ แถมยังมีวินิซิอุส และโรดรีโก้ แม้อายุจะยังมามาก แต่ความเก๋าไม่เป็นรอง

ทำให้รวมขุมกำลังแล้วระหว่างผู้เล่นมากประสบการณ์ กับ ผู้เล่นที่โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และอายุไม่มาก นั้นช่างลงตัว ดูได้จากฤดูกาลที่ผ่านมาที่พกเขาผงาดคว้าแชมป์ได้ถึง 2 รายการ รวมถึงซูเปอร์ คัพ เป็น 3 รายการ ซึ่งฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดขึ้นอีกไม่กี่วัน เรอัลมาดริด ยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งในทุกรายการเหมือนทุก ๆ ปีที่ผ่านมา

สนับสนุนบทความดี ๆ โดย : https://www.855gclub.com